วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ฟัตวาชั่วๆจากโลกชีอะฮฺบุคคลสามารถค้าเฮโรอีนได้

ฟัตวาชั่วๆจากโลกชีอะฮฺ บุคคลสามารถค้าเฮโรอีนได้!!!
บทความที่ท่านผู้อ่านกำลังได้รับชมอยู่ต่อไปนี้หาใช่บทความที่เขียนขึ้นมาเพื่อใส่ร้ายอย่างมืดบอดต่อกลุ่มบุคคลที่สังกัดอยู่ในลัทธิชีอะฮฺ แต่เป็นบทความที่เขียนขึ้นมาจากข้อเท็จจริงที่จับต้องได้ พิสูจน์ได้ และจากข้อมูลที่มาจากกลุ่มลัทธิชีอะฮฺเองจริงๆ
ขึ้นหัวข้อมาว่า “ฟัตวาชั่วๆจากโลกชีอะฮฺ บุคคลสามารถค้าเฮโรอีนได้” ท่านพี่น้องหลายท่านอาจจะดูว่าแรงไป หากแต่ในความเป็นจริงคำว่าชั่วหรือระยำอัปรีย์สถุลชาติตระกูล ยังดูน้อยไปหากคิดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากฟัตวานี้ เพราะนอกจากฟัตวาจะทำให้ใครต่อใครหันมาเป็นพ่อค้าเฮโรอีนได้อย่างสบายใจหรือเป็น “บังรอนเวอร์ชั่นชีอะฮฺ” แล้วมันยังทำลายภาพลักษณ์ของศาสนาอิสลามอันบริสุทธิ์ที่จะถูกมองจากภายนอกว่าเป็นศาสนาที่ชั่วครบสูตรจริงๆ เพราะนอกจากจะสอนให้เล่นมุตอะฮฺกับสาวๆกันลืมตาย และทรมานร่างกายเด็กๆในวันอาชูรอแล้ว ยังจะถูกมองว่าเป็นศาสนาที่อนุมัติให้ค้าขายยานรกที่ทุกประเทศทั่วโลกและทุกศาสนามองว่าเป็นสิ่งต้องห้าม และที่บัดซบเข้าเส้นเลือดก็คือกลุ่มคนที่ออกมาฟัตวานี้คือกลุ่มคนที่โฆษณาอยู่ตลอดว่า ตนเป็นอิสลามที่แท้จริงจากลูกหลานของนบี ตนเป็นรัฐอิสลามอันแข็งแกร่งที่ตะวันตกหวาดกลัว ตนเป็นพวกเดียวที่ยืนหยัดในความถูกต้องไม่ตกอยู่ใต้อิทธิพลความชั่วใดๆ และที่สำคัญโฆษณากันหั่นแหลกว่าตนเป็นกลุ่มคนที่อยู่ภายใต้ระบอบการปกครองที่เรียกว่า “วิลายัตอัลฟะฮฺกี” ซึ่งเป็นระบบการปกครองที่ผู้นำศาสนามีอำนาจชี้ขาดดังนั้น ความชั่วร้ายต่างๆจักไม่สามารถออกมาจากผู้อยู่ใต้ระบบการปกครองเช่นนี้ ในความเป็นจริงกลุ่มคนเหล่านี้ก็คือคนตลบตะแลงกลุ่มเดียวกับพวกที่ทำเว็บไซต์ที่ชื่อว่า www.islamichomepage.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เก่งกาจในแง่ของสร้างภาพลบแก่พี่น้องมุสลิมทุกๆกลุ่มอย่างปราศจากหลักฐานที่ชัดเจน เรามักจะได้เห็นได้อ่านข่าวคราวจากพวกมารร้ายเหล่านี้ที่มักจะปล่อยออกมาเพื่อทำลายมุสลิมทุกกลุ่ม เช่น ออกมาว่าอดีตอธิบดีอัสฮัร(เชคฏอนฏอวี) คือสุนัขรับใช้อเมริกา โจมตีเชคก็อรฺดอวีว่ากลับกลอก กล่าวหาว่ามุฟตีซาอุดี้ฯฟัตวาเข้าทางยิวอเมริกา กล่าวหาว่าสภาอุลามะอฺแห่งอิยิปต์ว่าฟัตวาให้ชายหญิงจูบหรือหอมกันได้ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นข่าวโครมลอยที่ปราศจากตัวบทหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร แต่พวกชีอะฮฺกลับกลอกเหล่านี้ไม่เคยนำเสนอความเน่าเปื่อยที่อยู่ในกลุ่มพรรคพวกของตนเลย ไม่ว่าจะการเล่นมุตอะฮฺของชายแก่ที่ชื่อโคไมนี่กับเด็กหกขวบ การฟัตวาห้ามต่อสู้กับอเมริกาของซิสตานี การร่วมมือกันแบ่งสรรผลประโยชน์ในอิรัคกับอเมริกาของกลุ่มปฏิวัติอิสลามแห่งอิรัค ภายใต้การนำของ อับดุลอะซีส อัลฮะกีม และเช่นกัน ไม่เคยเขียนเอาเลยว่าในลัทธิชีอะฮฺมีคำฟัตวาว่าอนุมัติให้ชีอะฮฺทำตัวเป็น เอเย่นค้าเฮโรอีนได้!!!! ดังตัวอย่างที่เราจะเขียนต่อไปนี้

ใครฟัตวา?
ก่อนจะเข้าสู่ข้อมูลหลักฐานเราจำต้องมารู้จักผู้ฟัตวาว่าคือใคร และมีฐานะที่สูงส่งอย่างไรในหมู่ชาวชีอะฮฺ ผู้ฟัตวาก็คือ อยาตุชชัยตอน ซัยยิดอบุลกอซิม อัลคูอีย์ อดีตมัรญิอฺตักลีด(ผู้วินิจฉัยศาสนาสูงสุด) แห่งประเทศอิรัค ผู้เป็นอาจารย์ของนักปราชญ์ชั้นสูงของโลกชีอะฮฺอย่าง อัลซิสตานี หากจะรู้ว่าผู้ฟัตวาใหญ่ขนาดไหนเราลองคิดดูแล้วกันว่าพวกเชคใหญ่ๆตามอิหร่านยังต้องข้ามน้ำข้ามทะเลมาเรียนกับ อัลคูอีย์ คนนี้ที่เมืองนะญัฟ ประเทศอิรัค อีกทั้งผลงานและองค์กรต่างๆที่ใช้ชื่อว่า สถาบันอิมามอัลคูอีย์ ซึ่งเป็นสถาบันเผยแพร่ชีอะฮฺที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ล้วนมาจากการก่อตั้งของผู้ฟัตวาคนนี้และคนในสถาบันก็ล้วนแต่เป็นลูกหาบของนายคนนี้ทั้งสิ้น ซึ่งสถาบันดังกล่าวก็มีในประเทศไทยด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงหายห่วงเรื่องความน่าเชื่อถือของผู้ฟัตวา (น่ากลัวใจจริงๆว่าหากผู้คนพากันเข้ารีตเป็นชีอะฮฺกันมากต่อไปจะมีเอเย่นขายเฮโรอีนสวมสาระบั่นสีดำเดินกันวุ่น)

ภาพถ่ายของ อบุลกอซิม อัลคูอีย์ ผู้ฟัตวา(ซ้าย) กับสักขีพยานแห่งการเป็นนักปราชญ์ของโลกชีอะฮฺ คนขวา นายอะลี ซิสตานี เชคใหญ่จากอิหร่านผู้ถวายตัวเป็นลูกศิษย์ของอัลคูอีย์ เป็นหลักฐานที่บอกได้อย่างชัดเจนว่าผู้ฟัตวามิใช่คนที่เชื่อถือมิได้ในหมู่ชาวชีอะฮฺ



หลักฐานการฟัตวา (ดูซะชีอะฮฺ แล้วเลิกงมงายได้แล้ว)
นำมาจากหนังสือ صراطنجاة ของอัลคูอีย์ กรุณาสังเกตุตรงที่แต้มสีแดงไว้ระบุอย่างชัดเจนว่าอนุมัติให้ทำการค้าขายเฮโรอีนและผลิตมันได้!!!!!!!!! สำหรับคนที่รู้อาหรับจะอ่านเข้าใจ(ละอฺนะตุลลอฮุอะลัยกุม ยาชีอะฮฺๆๆๆๆๆๆ)

หน้าปกหนังสือ



แม้ว่าการฟัตวานี้จะไม่ระบุถึงการเสพย์มันว่าอนุมัติหรือไม่ แต่อย่างไรเสียคนกี่พันล้านคนที่จะต้องตกเป็นทาสยานรกนี้เพราะคำฟัตวาสิ้นคิดเหล่านี้ อย่าว่าแต่เฮโรอีนเลย แม้กระทั่งสุราที่กินแล้วไม่อันตรายเท่าเฮโรอีนอิสลามยังห้ามที่จะมุสลิมนั่งร่วมโต๊ะสังคกรรมกับผู้ดื่ม !!!! ชีอะฮฺจะต้องรับผิดชอบกับการกระทำที่ทำร้ายต่อมนุษยชาติและทำลายภาพลักษณ์พี่น้องมุสลิมทั่วโลก

แล้วชีอะฮฺจะทำอย่างไรต่อไป ?
แน่นอนเมื่อเราได้ทำการแฉความชั่วร้ายของนักปราชญ์ชั้นสูงของโลกชีอะฮฺ หรือซาตานในคราบนักบุญแล้ว เชื่อเหลือเกินว่าบรรดาชีอะฮฺคงจะร้อนรุ่มดั่งไฟเผา เตรียมควานหาข้อมูลเพื่อแก้ตัวเป็นแน่แท้ แต่ชีอะฮฺจะปฏิเสธได้อย่างไรกันเล่าในเมื่อหลักฐานมันแจ่มแจ้งขนาดนั้น ทางเลือกของลัทธิชีอะฮฺมีแค่ตัวเลือกไม่กี่ตัวเลือกดังนี้

๑. ถอดถอนตำแหน่งอยาตุลลอฮฺของคูอีซะ และเขียนประณามมันในเว็บไซต์ของชีอะฮฺทุกๆเว็บไซต์ อันเป็นการแสดงตนว่าไม่ศรัทธาต่อผู้ฟัตวาคนนี้ ให้สมกับที่ชอบวิจารณ์ชาวบ้าน
๒. ทำลายสื่อสิ่งพิมพ์ และองค์กรสถาบันต่างๆที่เป็นของผู้ฟัตวา เพราะไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเงินที่นำมาใช้ในการตีพิมพ์หนังสือศาสนาและจัดตั้งสถาบันจะไม่ใช่เงินจากการขายเฮโรอีน เพราะการขายเฮโรอีนเป็นธุรกิจเถื่อนที่ทำกำไรดี โดเฉพาะประเทศในกลุ่มตะวันออกกลางอย่างเช่น อิรัค และประเทศทางแถบอเมริกาใต้
๓. ด่าประณามคูอีย์ในหนังสือทางศาสนาทุกๆเล่ม ให้ได้แค่ครึ่งเดียวกับที่ชอบด่าซอฮาบะฮฺอย่างท่าน อบูบักร อุมัรและอุสมานก็ได้ มิเช่นนั้นท่านจะเข้าข่ายกลับกลอกอย่างแท้จริง

แต่หากชีอะฮฺยังคงนั่งเฉยเป็นชัยตอนใบ้ แถมยังปกป้องคูอีย์โดยข้อแก้ตัวห่วยๆแค่ว่า “ไม่จริงๆๆ วะฮาบีใส่ร้าย วะฮาบีสร้างความแตกแยกและสร้างฟิตนะฮฺ” ก็จงรู้ไว้เถิด บรรดามุสลิมทุกกลุ่มบนผืนปฐพีนี้จะทำสงครามประชาชนปลดแอกความโสโครกของโลกจากกลุ่มลัทธิชีอะฮฺเอง เพื่อปกป้องบรรดาอะฮฺลุลบัยตฺจากการถูกแอบอ้าง ปกป้องมนุษยชาติทุกๆศาสนาจากการตกเป็นทาสยานรกของพวกลัทธิชีอะฮฺ ตลอดจนสืบทอดเจตนารมณ์ของบรรดาซอฮาบะฮฺที่ทุ่มเททำลายความชั่วที่มีอยู่ในโลกทั้งหมด

อีกมุมหนึ่งของอบุลกอซิม อัลคูอีย์ กับมาดการสูบบุหรี่ที่สร้างความตะลึงแก่ชาวซุนนี(มิน่าเล่าถึงได้ฟัตวาว่าขายเฮโรอีนได้)

1 ความคิดเห็น:

  1. ถามจริง ๆ นะ ว่าบทความนี้ไปลอกเค้ามาหรือเขียนเอง คำฟัตวาข้างบน อ่านเข้าใจหรือป่าว อ่านให้เข้าใจก่อนแล้วค่อยมาว่าและประณาม

    ตอบลบ