อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่ารุ่นพี่มุสลิมะฮฺท่านนี้เข้มแข็งพอและไม่ยอมโอนอ่อนไปกับคำขู่ ชายชีอะฮฺคนนี้ก็ได้เปลี่ยนท่าทีไปและได้ยื่นข้อเสนอที่ “กวนส้นตีน” คนรักอะฮฺลุลบัยตฺ ตัวจริง นั่นก็คือ จะขอเล่นมุตอะฮฺกับรุ่นพี่มุสลิมะฮฺของผม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!(การเล่นมุตอะฮฺหมายถึง การแต่งงานชั่วคราวที่กำหนดระยะเวลาไว้ เช่น วันเดียว หรือสองวัน ภายหลังระยะเวลาที่กำหนดได้หมดลงไปความเป็นสามีภรรยาก็สิ้นสุดด้วย) แถมยังสำรอกออกมาอย่างน่าเกลียดอีกว่าการเล่นมุตอะฮฺในครั้งนี้จะไม่มีพันธะใดๆติดตามมา อุแหม่ นี่เดี๋ยวนี้ชีอะฮฺมันอุตริถึงขนาดจะนำเอาวัฒนธรรมอันโสโครกของพวกมันมาปรับใช้กับมุสลิมะฮฺของเราแล้วรึนี่ แบบนี้มันต้องเขกกะบาลฝากไปยังลูกพี่มันที่สถานทูตอิหร่าน ตอลดจนนายซัยยิดปลอมคนนั้นด้วย ว่านี่หรือคำสอนของพวกมึง!!!เห็นมุสลิมะฮฺของเราเป็นแค่โสเภณีได้ไง !!
สำหรับผมแล้ว เรื่องดังกล่าวนี้แม้จะน่าเศร้าใจและชิงชังแค่ไหน แต่ผมก็เข้าใจว่าความกระเหี้ยนกระหือรือที่อยากจะเล่นมุตอะฮฺของชายชีอะฮฺซกมกแอบจิตคนนั้นกับมุสลิมะฮฺของเรา มันถูกกระตุ้นมาจากหลักคำสอนของชีอะฮฺที่ว่าการเล่นมุตอะฮฺได้ผลบุญมหาศาล ซึ่งจะขอยกตัวอย่างคำสอนดังกล่าวนั้นมาให้ดูกัน
สิ่งที่กล่าวมานี้หาใช่การใส่ร้ายใส่ไคล้แต่อย่างใดแต่เป็นเรื่องที่ถูกเปิดเผยจากคนสนิทของโคไมนี่เอง คือ ท่านอัซซัยยิด ฮุซัยนฺ อัลมูเซาวีย์ ผ่านหนังสือที่ท่านเขียนอุทิศไว้ก่อนตายคือ لله .. ثم للتاريخ (เพื่ออัลลอฮฺและเพื่อประวัติศาสตร์)
เรื่องราวดังกล่าวนั้นเริ่มขึ้นจาก พฤติกรรมอันต่ำช้าของโคไมนี่ซึ่งท่าน ซัยยิดฮุซัยนฺ อัลมูเซาวีย์ ได้เล่าไว้ว่า ทุกๆครั้งที่โคไมนี่จะไปเยี่ยมเยียนประชาชนชาวอิหร่านตามหมู่บ้านและชนบทต่างๆ ชาวอิหร่านมักจะนำเด็กสาวเอ๊าะๆ มาถวายแด่โคไมนี่ให้เล่นมุตอะฮฺ เพราะชาวอิหร่านเหล่านั้น หวังว่าเด็กที่เกิดขึ้นมาจะได้เป็นเชื้อสายของอิมาม!!! ซัยยิดฮุซัยนฺ อัลมูเซาวีย์ ได้เฝ้าอดทนต่อพฤติกรรมอันจัญไรนี้มาโดยตลอด จนกระทั่งวันเสียงปืนแตกมาถึง เมื่อโคไมนี่ได้ทำมุตอะฮฺกับเด็กหญิงอายุเพียง 6 ขวบ ซึ่งในวันนั้น ซัยยิดฮุซัยนฺ อัลมูเซาวีย์ ได้เฝ้าอยู่และนอนอยู่ห้องข้างๆของโคไมนี่ และได้ยินเสียงเด็กร้อง ตลอดทั้งคืน จนในที่สุดซัยยิดฮุซัยนฺ อัลมูเซาวีย์ จึงได้หนีออกจากสถานที่อันวิปริตเหล่านั้น และภายหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นท่านได้เขียนหนังสือ ชื่อ لله .. ثم للتاريخ (เพื่ออัลลอฮฺและเพื่อประวัติศาสตร์) ออกมาเพื่อแฉพฤติกรรมอันชั่วร้ายของโคไมนี่ตลอดจนเหตุการณ์การเล่นมุตอะฮฺกับเด็ก 6 ขวบครั้งนั้นเช่นกัน แต่ราวกับว่าหน้าที่ท่านเสร็จสิ้นลงแล้ว ภายหลังการเขียนหนังสือชิ้นประวัติศาสตร์นี้ ท่านซัยยิดฮุซัยนฺ อัลมูเซาวีย์ ก็ได้ถูกฆาตรกรรมอย่างลึกลับ และเป็นปริศนาดำมืดจนถึงทุกวันนี้ว่าใครฆ่า ? แต่แน่นอนสติปัญญาย่อมบอกได้ว่า ใครฆ่า? ก็จะใครอีกเล่าถ้าไม่ใช่คนที่เดือดร้อนเพราะการแฉเรื่องราวเหล่านี้
ภาพหน้าปกหนังสือดังกล่าว
ดาวน์โหลดหนังสือ لله .. ثم للتاريخ ได้จากลิงค์นี้ (เป็นภาษาอาหรับ)
http://www.fnoor.com/books/fn037.zip
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีเรื่องราวอันน่าอัปยศเหล่านี้ออกมาแล้ว ทางชีอะฮฺเองก็หาได้สำเนียกและคิดปรับปรุงไม่ มิหนำซ้ำตลาดการมุตอะฮฺยังคงเฟื่องฟูขึ้นมากในหมู่วัยรุ่นชาวชีอะฮฺ และวันนี้มันก็ได้ทะลักมาสู่ชีอะฮฺในสังคมไทยแล้วเช่นกัน ตลอดจนซุนนีสมองตื้นบางคนที่กระหายทางเพศก็เออออรับการเล่นมุตอะฮฺมาเช่นกันโดยทำใจคิดว่ามันเป็นข้ออนุมัติในอิสลาม ใครไม่เชื่อลองไปหอพักแถวหน้ารามดู จะพบการเล่นมุตอะอฺเยอะพอดู
อีกประการหนึ่ง ที่ผู้เขียนพบเห็นก็คือ ความหมกมุ่นของชีอะฮฺในการเล่นมุตอะฮฺ จนถึงขนาดทำเว็บเพื่อการมุตอะฮฺโดยเฉพาะเลยคือ http://www.mutah.com/ เล่นเอามึนไปตามๆกัน ในความเป็นจริงนั้นพฤติกรรมการเล่นมุตอะฮฺนั้นจะมีความแปลกประหลาดอยู่กับคนสองกลุ่ม ก็คือ ชาวคริสต์เตียนและชีอะฮฺ ในฟากชาวคริสต์เตียนนั้นมองการเล่นมุตอะฮฺว่าเป็นสิ่งต่ำช้าแลละพยายามโจมตีอิสลาม ว่าเป็นศาสนาที่สอนเรื่องมุตอะฮฺโดยชอบไปนำเอาหลักฐานจากฝ่ายชีอะฮฺมาทั้งๆที่ชาวคริสต์เตียนไม่เคยไปมองเลยว่าในไบเบิลเองต่างหากที่มีโองการเรื่องมุตอะฮฺอยู่ ในฟากของชีอะฮฺเองนั้นก็พยายามจะยัดเยียดเรื่องมุตอะฮฺใส่พี่น้องมุสลิมโดยอ้างว่ามีในอิสลาม ก็พอจะเห็นนะครับว่าสองพวกนี้เอื้อต่อกันในการทำลายอิสลามเยี่ยงไร
สุดท้ายขอจบบทความนี้ด้วยภาพลับสุดยอด ของอุลามะอฺชีอะฮฺกับพฤติกรรมอันผิดศีลธรรม ซึ่งเป็นผลมาจากคำสอนเรื่องมุตอะฮฺครับ
อุลามะอฺชีอะฮฺในอิหร่านกำลัง เจรจาขอมุตอะฮฺกับสาวอิหร่านอยู่
ในสังคมอิหร่าน จะมีสาวๆชีอะฮฺยืนตามที่ถนน(ดังภาพข้างล่าง)เพื่อให้ชายที่สนใจมาขอเล่นมุตอะฮฺด้วยและภายหลังการเล่นมุตอะฮฺเสร็จก็จะมีการจ่ายเงินเป็นค่าตอบแทน ถามว่าต่างกับกะหรี่บ้านเราตรงไหน
(เล่นมุตอะฮฺกับคนไหนดีหว่า )
ซัยยิด อัลคอตามี อิมามและอดีตประธาณาธิบดีชาวอิหร่านกับความหัวงูของมัน สังเกตุแววตา เฒ่าหัวงูซะไม่มี ไม่รู้เล็งใครไว้ป่าว
โอ๊ะๆๆๆ แต๊ะอั๋งหล่าว ไอ้แก่เอ๊ย หวังจะเล่นมุตอะฮฺอีกแหงเลย ฝ่ายหญิงก็ระรื่นน่าดูหวังได้เชื้อสายอิมามมั้ง
กับเด็กยังไม่เว้น
โอ้ ท่านเราะฮฺบัต อะลี คอมาเนอี ผู้นำสูงสุดของโลกชีอะฮฺ ให้สาวๆมาจูบมือได้ไง
นี่คือ อะฮฺมัด นิญ็อด ประธานาธิบดีอิหร่าน แง่ง ปากบอกจะสู้กับอเมริกาแต่ลอกสันดานอเมริกามาเปี๊ยบ
อยู่กับสาวๆได้หน้าไม่อาย
ภาพของมุฮัมมัด บากิร ซ็อดรฺ อุลามะอฺชีอะฮฺในตำนานของอิรัค ดูผิวเผินน่าเกรงขาม แต่กรุณาดูภาพทางขวาเปรียบเทียบจะพบกับความเพลบอยอย่างเหลือเชื่อ(อยู่กับสาวแถมเปิดเอาเราะฮฺ)
ญะมีล บิน อัด-ดารีย์กล่าวว่า เขาได้สอบถามอิมามญะอฺฟัร อัศ-ศอดิกว่า มุตอะฮฺเป็นที่อนุมัติสำหรับหญิงพรหมจารีด้วยหรือไม่ อิมามพูดว่า “ไม่มีความผิดในเรื่องนี้ ตราบเท่าที่ผู้หญิงไม่เด็กจนเกินไปนัก”อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้รวบรวมหะดีษ(ฝ่ายชีอะฮฺ)ทั้งหมดมีความเห็นตรงกันว่าเด็กหญิงที่มีอายุ 9 ขวบไม่ถือว่าเป็นเด็กจนเกินไป จากหนังสือ ฟุรูอฺ อัล-กาฟีย์, เล่ม 2, หน้า 196
โอ้ๆๆๆๆๆ นี่ชัดเลย จากคำสอนข้างต้น กับเด็กยังดูดดื่มขนาดนี้
กลับใจเสียเถิดชีอะฮฺ
อัสลามุอลัยกุมฯ
ตอบลบดิฉันคือผู้ดูแลเวบบ้านมุสลิมะฮฺ และเกิดความสับสนจากงานเขียนของเจ้าของเวบค่ะ เข้าใจตามที่บทความ คนที่คุณอ้างถึงว่าดูแลเวบบ้านฯ และเป็นสมาชิกบะนาตฯ จริงๆ แล้วมีคนเดียวเท่านั้น เลยยิ่งทำให้งงงวยว่า ดิฉันคือคนที่คุณอ้างถึง แต่ไม่เคยได้รับรู้เรื่องเหล่านี้จากใครเลย
เวบบ้านฯ และบะนาตฯ คนละหน่วย แต่เป็นเพื่อนรู้จักกัน
ฉะนั้น ฝากตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนนำเสนอ
เกรงว่าข้อเขียนที่พาดพิงของคุณจะสร้างความสับสนให้กับผู้ที่เข้ามาอ่าน และสร้างให้เกิดฟิตนะฮฺยังบุคคลอื่นด้วย
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการชี้แจง ติดต่อที่ nafeezah.sp@gmail.com
ตอบลบอัซตัฆฟิรุ้ลลอฮ อะอูซุบิกะมินซาลิก
ตอบลบอัซตัฆฟิรุ้ลลอฮ อะอูซุบิกะมินซาลิก
อัซตัฆฟิรุ้ลลอฮ อะอูซุบิกะมินซาลิก
ชั้นจะห่างไกลจากมันเทียบเท่าความเร็วของแสง
โลกเราไปถึงไหนแล้ว ยังมาบ้าเขียนโจมตีกันอยู่ได้ เรื่องภาพทั้งหมดไม่มีความจริงเลยสักเรื่อง มึงก็เห็นว่าเขาไม่จับมือกับผู้หญิง,สวนภาพอื่นเขาเดินผ่านมึงก็หาว่าเขากำลังเลือก,มึงเป็นมาลาอิกะห์ปล่าวถึงร่วงรู้คำพูดของเขา,สวนเรื่องอิหม่ามโคมัยนี่มึงใส่ร้ายท่านระยำจริงๆพวกมึง. กูขอถามหน่วย พวกมึงมีมากในโลกนี้แต่ไม่สามารถทำอะไรกับศรัสตรูอิสลามได้เลย, แต่พวกกูแม้งกลัวกันทั้งโลก จึงต้องหาเรื่องใส่ร้ายมาทำลายความบริสุทธิ์ของท่านเหล่านั้น.ไอ้ระยำเหมื่อนกับคอลีฟะฮ์อันชัวของพวกมึง ไปอยู่ในนรกกับพวกมันนะ จากชีอะ กทม.
ตอบลบและขอเตือนเจ้าของเว็บนะครับ ให้คุณรีบลบภาพและข้อความที่ชั่วร้ายนี่ออกไปให้เร็วที่สุด ไม่งั้นคุณต้องเจอกับบทลงโทษที่ยิ่งไหญ่ ทั้งจากพระผู้เป็นเจ้า และจากเรามนุษย์อย่างแน่นอน
ตอบลบ